Highlight: นวัตกรรมและเทคโนโลยีสำหรับทุกคน

การขับเคลื่อนธุรกิจ

          ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนธุรกิจ การแข่งขันและโอกาสในการเติบโตจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด หลากหลายธุรกิจล้วนแล้วแต่พัฒนาและนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันมีประโยชน์มาใช้ขับเคลื่อนการดำเนินงาน ลดขั้นตอน ระยะเวลา รวมไปถึงต้นทุน อีกทั้งแสวงหาโอกาสในการเติบโต

          OR จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่คำนึงถึงผู้คนและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยนำนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และกำหนดวิธีการดำเนินธุรกิจใหม่ ๆ ควบคู่ไปกับการออกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคให้ได้สูงสุด  สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงาน  ‘OR SDG’ ประกอบด้วย  S:SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็กผ่านการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน,  D:DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ ผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกัน,  G:GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาดผ่านการส่งเสริมธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว เพื่อสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน 

          เป้าหมายด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นหนี่งในเป้าหมายองค์กรที่ถูกระบุอยู่ในตัวชี้วัดผลการดำเนินงานขององค์กร (Corporate KPI) รวมถึงผนวกอยู่ในตัวชี้วัดของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO KPI) โดยมีรายละเอียดตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

  • Digital Driven Organization (ผ่าน Digital Platform และ Digital Infrastructure)
  • New Business Investment 

โอกาสและความท้าทาย

          นวัตกรรมและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น (Disruptive Technology) และการพฤติกรรมของผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้เสียที่เปลี่ยนแปลงไปมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ทุกธุรกิจปรับตัวและสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มให้ได้รับความสะดวกสบาย มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย นอกจากนี้ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับคุณค่าของสินค้าและบริการมากขึ้น ดังนั้นหากธุรกิจไม่สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ อาจส่งผลต่อสถานะทางการเงินในอนาคตและกลายเป็นความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจได้

กลยุทธ์การดำเนินงาน

          OR มีความมุ่งมั่นในการเป็น Digital Driven Organization โดยมีการอบรมหลักสูตรด้านดิจิทัล (Digital Competency) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของพนักงานในองค์กร ทั้งในด้านกรอบความคิด (Mindset) ความรู้ (Knowledge) และทักษะ (Skills) รวมถึงมีแผนการดำเนินงาน Digital Transformation ต่าง ๆ เช่น การสร้างและปรับปรุง Digital Infrastructure สำหรับการดำเนินธุรกิจ การพัฒนา Digital Platform เพื่อสนับสนุนการให้บริการรูปแบบ Online to Offline (O2O) การใช้ Digital Technology เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น เป็นต้น 

          OR ยังแสวงหาโอกาส ผลักดัน และเร่งการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ (New Business Investment) ที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น รวมถึงการสร้างต้นแบบ (Prototype) นวัตกรรมเชิงพาณิชย์เพื่อทดสอบการตอบสนองความต้องการของลูกค้า การแก้ไขปัญหาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม  ก่อนขยายผลเป็นธุรกิจใหม่ต่อไป

          นอกจากนี้ OR มีการลงทุนในรูปแบบ Corporate Venture Capital (CVC) ทั้งลงทุนผ่านกองทุน Venture Capital และการลงทุนโดยตรงใน Startup โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ OR เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ในระบบนิเวศของ OR ในปัจจุบัน หรือการพัฒนาต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่สำหรับ OR ในอนาคต ควบคู่กับการสร้างผลตอบแทนทางการเงินจากการลงทุนในระดับที่ทำให้ port การลงทุนใน CVC ของ OR มีเงินหมุนเวียนสำหรับการลงทุนได้เบ็ดเสร็จในตัวเอง (Financial Self-sustainability) อีกด้วย

เป้าหมายระยะยาว (Long-term Target)

โครงการและผลการดำเนินงานที่โดดเด่น ในปี 2566

xplORe ดิจิทัลแพลตฟอร์มหลักของ OR

          Digital to Revenue เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของ OR แอปพลิเคชัน xplORe จึงถูกพัฒนาขึ้นให้เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มหลักของ OR เพื่อรวมศูนย์การส่งมอบประสบการณ์ที่ดีอย่างไร้รอยต่อให้กับลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ส่งต่อธุรกรรมจากออนไลน์แพลตฟอร์มไปยังร้านค้าของกลุ่ม OR และพันธมิตรบนโลกออฟไลน์ (O2O: Online to Offline) เช่น พีทีที สเตชั่น  ฟิต ออโต้  คาเฟ่อเมซอน จิฟฟี่ โอ้กะจู๋ เป็นต้น OR เปิดตัวแอปพลิเคชัน xplORe อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม 2566 เริ่มให้บริการด้วยฟีเจอร์พื้นฐานและมีการรวมแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของ OR ที่ทำหน้าที่ส่งมอบประสบการณ์ที่เกี่ยวเนื่องกันให้เข้ามาให้บริการบน xplORe เช่น บลูการ์ด บลูคอนเนค ฯลฯ และมีแผนงานในการพัฒนาฟีเจอร์อื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อดึงดูดและสร้างความน่าสนใจให้กับแพลตฟอร์ม รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของฟีเจอร์พื้นฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีขีดความสามารถสูงขึ้น ปัจจุบัน xplORe มุ่งเน้นการตอบโจทย์ลูกค้าในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ OR มีความชำนาญ และในอนาคตจะขยายขอบข่ายการให้บริการไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายของ OR อาทิ ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว สุขภาพและความงาม ฯลฯ นอกจากนี้ xplORe ยังกำหนดแผนงานในการมุ่งสู่การทำ Data Monetization เพื่อร่วมผลักดันกลยุทธ์ Digital to Revenue ในภาพรวมของ OR ให้บรรลุเป้าหมายอีกด้วย


ฟีเจอร์หลักของ xplORe

  • Deal: คูปองส่วนลดราคาพิเศษจากร้านค้าจากร้านค้าแบรนด์ OR และพันธมิตร
  • Pass:  ตั๋วกิจกรรมและความบันเทิงต่างๆ
  • Reservation: จองตั๋วคอนเสิร์ต จองคิวร้านอาหาร จากคู่ค้าพันธมิตร
  • Searching: ค้นหาสถานีบริการ PTT Station พร้อมแจ้งราคาน้ำมัน
  • Mission: ร่วมทำภารกิจด้วยกิจกรรมที่หลากหลาก พร้อมรับคะแนน หรือรางวัลสุดพิเศษ
  • Wallet: กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ใช้จ่ายเงินได้ทั้งร้านค้าในเครือ OR และร้านค้าพันธมิตร ที่รองรับการชำระเงินในรูปแบบ Thai QR
  • Reward: สะสมคะแนน Blue Card และใช้คะแนนแลกสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำ โอนคะแนน ลุ้นรางวัล แลกคะแนนร่วมกิจกรรม/ แลกรับของรางวัลมากมาย

ผลลัพธ์และประโยชน์ของโครงการ

  1. เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าและสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมกับ OR ที่ดียิ่งขึ้น
  2. ปริมาณการซื้อสินค้าผ่าน xplORe ที่ถูกส่งไปยังร้านค้าแบบออฟไลน์ของ OR เพิ่มมากขึ้น
  3. ลูกค้าใหม่ที่สมัครเป็นสมาชิก xplORe มีการใช้จ่ายทั้งในแพลตฟอร์ม xplORe และร้านค้าออฟไลน์ของ OR
  4. เป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ของ OR

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน ในปี 2566

ตัวชี้วัดสำคัญ 

ผลการดำเนินงาน

เป้าหมายปี 2566

เป้าหมายปี 2573

2563

2564

2565

2566

จำนวนผู้บริโภคที่ใช้งาน Digital Platform (สะสม)

ยังไม่เริ่มดำเนินการ

ยังไม่เริ่มดำเนินการ

ยังไม่เริ่มดำเนินการ

0.54 ล้านราย

0.8 ล้านราย

14 ล้านราย

*เริ่มดำเนินการปี 2566 (เปิดตัวแอพพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการ) จึงไม่มีผลการดำเนินงานปี 2563-2565

ORZON Ventures

          ORZON Ventures คือ กองทุน Venture Capital ที่จัดตั้งขึ้นโดยความร่วมมือของ OR และ 500 Global มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพด้าน Mobility & Lifestyle ที่มีศักยภาพทั้งในประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อให้ OR เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ในระบบนิเวศของ OR ในปัจจุบัน หรือการพัฒนาต่อยอดสู่ธุรกิจใหม่สำหรับ OR ในอนาคต รวมทั้งยกระดับในการสร้างและส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพผ่านการสนับสนุนจาก OR ด้วยความมุ่งหวังว่าการสร้างพันธมิตรและการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ร่วมกันจะช่วยให้ธุรกิจและประเทศสามารถเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน 

          โดยกองทุนนี้มีทีมงาน “500 Global” ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสตาร์ทอัพเป็นผู้บริหารกองทุน ศึกษารายละเอียดของ ORZON Ventures เพิ่มเติม ได้ที่ https://www.orzon.ventures/ 

          ทั้งนี้ ในปี 2566 ที่ผ่านมา ORZON Ventures ได้ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพเพิ่มเติม อาทิ


APX (Asia Pallet Express) 
แพลตฟอร์มการขนส่งที่ทันสมัยด้วยบริการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มคัน หรือ Less-than-Truckload (LTL) โดย APX มีเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายขนส่งทางถนนที่เชื่อมต่อกันในประเทศไทย และภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ลดการปล่อยก๊าซ CO2 และจำนวนรถบรรทุกบนท้องถนนในระยะยาว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Link APX ระดมทุน ORZON Ventures รอบ Pre-Series A มุ่งเป้าพัฒนาโซลูชันการขนส่งทางรถบรรทุก พร้อมบุกตลาด SEA (pttor.com) 

SLEEK EV แบรนด์ชั้นนำในการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย – สิงคโปร์ ซึ่งมีแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนในราคาที่เอื้อมถึงได้ภายใต้แนวคิด ‘Sustainability must be affordable’  โดย SLEEK EV ตั้งใจจะเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ รถจักรยานยนต์ถือเป็นยานพาหนะที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่าย และสามารถเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าได้ง่าย ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้การใช้ EV เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในประเทศไทยได้เร็วยิ่งขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Link  

  • ORZON Ventures ประกาศลงทุนใน SLEEK EV ตั้งเป้า ขยายการผลิต ขับเคลื่อนวงการมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสู่ระดับภูมิภาค (คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม)
  • OR จับมือ SLEEK EV ศึกษาโอกาสทางธุรกิจในรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมพัฒนาความร่วมมือการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ตอบโจทย์สังคม สิ่งแวดล้อม (คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม)

โอบอ้อมคลินิก

          ในปี 2566 OR – สปสช. – คลิกนิก (Clicknic) ร่วมกันเปิดโครงการต้นแบบ (Prototype) “โอบอ้อมคลินิก” คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในพีทีที สเตชั่น ตอบโจทย์แนวคิดให้บริการด้านสาธารณสุขรูปแบบใหม่ ผนวกเข้ากับการให้บริการพบแพทย์ทางไกล(Telemedicine) เพื่อยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพ และเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพขั้นพื้นฐานในประเทศ โดยเปิดให้บริการ “โอบอ้อมคลินิก” แห่งแรกภายในพื้นที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น สาขาหนองแขม กรุงเทพมหานคร

          OR ต้องการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขของประเทศ โดยใช้จุดแข็งของเครือข่าย พีทีที สเตชั่น ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศในการยกระดับการให้บริการด้านสุขภาพ สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ OR ในการขยายขอบเขตกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ไปยังธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Health & Wellness โดยมุ่งเน้นการให้บริการผู้ป่วยกลุ่มบัตรทอง ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ในประเทศ ให้สามารถรับบริการสาธารณสุขปฐมภูมิ (Primary Care) เพื่อรักษาการเจ็บป่วยเบื้องต้น อาการเจ็บป่วยไม่รุนแรงโดยให้บริการในรูปแบบ Omni-channel ผสมผสานรูปแบบ Offline และ Online อย่างครบวงจร โดยได้รับความร่วมมือจาก สปสช. ในการดูแลสิทธิในการเบิกจ่ายและเชื่อมต่อข้อมูลการเบิกจ่ายค่ารักษาของผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง และมีทีมแพทย์คุณภาพที่พร้อมให้คำปรึกษาและให้บริการผู้ป่วยผ่านระบบทางไกล (Telemedicine & Health Care Platform) อย่างมีประสิทธิภาพ

          โครงการดังกล่าวเป็นต้นแบบ (Prototype) นวัตกรรมเชิงพาณิชย์ เพื่อทดสอบการตอบสนองความต้องการของลูกค้า พร้อม ๆ กับการแก้ไขปัญหาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของ OR ที่มุ่งสร้างคุณค่าและให้ความสำคัญกับการดูแลผู้คน ชุมชน และสังคม อีกทั้งยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ OR คือ “Empowering All toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกัน” เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และเติบโตอย่างเข้มแข็งยั่งยืนอย่างแท้จริง อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Link

เปิดตัว “โอบอ้อมคลินิก”

 Facebook page : โอบอ้อม คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ และทาง line : @clicknic