
ความสำคัญ
ปัจจุบันจำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพิ่มตามอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปริมาณของเสียเพิ่มขึ้น ดังนั้น OR จึงให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าและเกิดประสิทธิผลสูงสุด โดยลดการใช้พลาสติกหรือทรัพยากรต่าง ๆ รวมถึงนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ และผลักดันการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังสนับสนุนส่งเสริมการแยกขยะและการรีไซเคิล โดย OR ตระหนักว่าหากธุรกิจไม่ปรับตัวและใช้ทรัพยากรที่ได้มาให้คุ้มค่า ในอนาคตอาจไม่มีทรัพยากรธรรมชาติหลงเหลือให้คนรุ่นหลังได้ใช้อีกต่อไป
OR มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด OR SDG (Small, Diversified, Green) หรือการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่าน SDG ในแบบฉบับของ OR เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย OR 2030 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างโอกาสเพื่อสังคมสะอาด ส่งเสริมธุรกิจสีเขียว เพื่ออนาคตสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Green) โดยมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืน ภายใต้พันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม (Planet) ที่มุ่งสู่การดำเนินธุรกิจที่สนับสนุนให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจตามหลักการ BCG (Bio-Circular-Green Economy) อันได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว
เป้าหมาย

กลยุทธ์ในการดำเนินการ
OR ยึดมั่นในการดำเนินงานธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยได้ประกาศนโยบายการบริหารจัดการความยั่งยืน เมื่อปี 2565 และมีการประกาศใช้นโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (QSHE) ปี 2566 เป็นกรอบในการดำเนินงานที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมของบริษัท นอกจากนี้ OR ยังได้กำหนดกลยุทธ์ Triple Bottom Line (3P) ที่ให้ความสำคัญกับสังคม ชุมชน (People) สิ่งแวดล้อม (Planet) ควบคู่ไปกับผลประกอบการ (Performance) โดยได้กำหนดตัวชี้วัดด้านการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน (Responsible Consumption and Production: RCP) เป็นหนึ่งในเป้าหมายด้าน Healthy Environment ของ OR 2030 Goals เพื่อลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ไปจนถึงการบริหารจัดการของเสียที่มุ่งเน้นการนำกลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด โดยได้มอบหมายให้ฝ่ายบริหารความยั่งยืน และคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักที่ผลักดันการดำเนินงานตามกลยุทธ์และเป้าหมายที่กำหนด

กลยุทธ์เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Strategy)
OR ดำเนินธุรกิจโดยนำหลักการและแนวคิดของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อันเป็นกุญแจสำคัญสู่การบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัท โดยนำมาบูรณาการประยุกต์ใช้กับทุกสถานประกอบการของ OR เพื่อมุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด ลดการใช้ทรัพยากรใหม่ ตั้งแต่การออกแบบ การยืดอายุการใช้งานบรรจุภัณฑ์ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค การลดของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิต ตลอดจนการกำจัดของเสียหลังสิ้นอายุการใช้งาน
Circular Economy in Action เป็นกรอบการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งทุกสถานประกอบการของ OR นำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจ โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่ ลดของเสียที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดการใช้ทรัพยากรโดยตรง (Virgin Resources)
กลยุทธ์เริ่มต้นจากการระบุของเสียที่อาจเกิดขึ้นของแต่ละธุรกิจ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการนำของเสียนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยทุกธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการก่อเกิดของเสียดังกล่าว จะต้องกำหนดแผนการดำเนินงานโครงการ พร้อมระบุประเภทของเสีย วิธีการลด และปริมาณที่คาดว่าจะลดได้ตามรูปแบบและระยะเวลาที่กำหนด โดยมีคณะทำงานการดำเนินธุรกิจเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy Taskforce) ผลักดัน ติดตามความก้าวหน้า ปัญหา อุปสรรค และผลการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเทียบกับแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้ รวมถึงพิจารณาแนวทางการแก้ไขหรือป้องกันกรณีผลการดำเนินงานไม่บรรลุตามแผนที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้คำแนะนำและส่งเสริมให้มีการปรับปรุงดำเนินงานให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานถูกติดตามโดยคณะกรรมการบริหารความร่วมมือสู่การดำเนินธุรกิจและพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Committee) นอกจากนี้ ผลการดำเนินงาน จะถูกรายงานต่อคณะกรรมการคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (OR Group Quality, Safety, Health and Environment Management Committee: OR QSHE GMC) เป็นประจำทุกไตรมาส
การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน จะถูกนำเสนอผ่านสื่อและช่องการประชาสัมพันธ์ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นผ่านช่องทาง Facebook วารสารของบริษัท สื่อโฆษณาโทรทัศน์ เว็ปไซต์ของ OR เป็นต้น

การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจของบุคลากรด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน
นอกเหนือจากผลักดันโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดขึ้นจริงในการดำเนินธุรกิจ ในปี 2566 ที่ผ่านมา OR ยังส่งเสริมให้บุคลากรมีความเข้าใจในแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมทั้งเรียนรู้การประยุกต์ใช้ Circular Design หรือ การออกแบบหมุนเวียนเพื่อสร้างนวัตกรรมธุรกิจ เพิ่มมูลค่าจากทรัพยากรเดิมที่มีในกระบวนการธุรกิจ (ห่วงโซ่คุณค่า) จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ต่อยอดความคิด ผ่านการจัด Workshop ให้ความรู้ในหลักสูตร “BCG Economy เศรษฐกิจใหม่ใกล้ตัว” โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Circo Hub Thailand
นอกจากนี้ เพื่อผลักดันให้เกิดผลลัพธ์อันเป็นรูปธรรม ได้มีการส่งตัวแทนพนักงานจากกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย ประกอบด้วยธุรกิจหล่อลื่น และธุรกิจคาเฟ่อเมซอน เข้าอบรมเชิงปฏิบัติการ “PRISM CE Workshop 2023” ร่วมกับกลุ่ม ปตท. ผ่านโครงการบริหารการสร้างประโยชน์ร่วมธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น หรือ Petrochemical and Refining Integrated Synergy Management (PRISM) เพื่อให้เกิดโครงการที่สร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรมกับธุรกิจ ตั้งแต่กระบวนการผลิต การบริหารจัดการของเสียที่เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ แล้วนำไป Recycle และ Upcycling มาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้อีกครั้ง


กลุ่ม ปตท. ได้ร่วมการจัดนิทรรศการ PTT Group Circular Economy Forum 2023 ภายใต้แนวคิด “Connext for a Better Future : รวมพลัง สร้างอนาคต” มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความตระหนัก สร้างการเรียนรู้ เชื่อมโยงเครือข่าย แสดงศักยภาพและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินธุรกิจตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนให้แก่พนักงานในกลุ่ม ปตท. อันจะนำมาซึ่งการเติบโตที่ยั่งยืน โดยมีการจัดแสดงผลงานการดำเนินโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน และโครงการนำร่องต่าง ๆ จากกลุ่ม ปตท.

โครงการความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก (External Collaboration)
การผสานความร่วมมือทางธุรกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนกับหน่วยงานภายนอก เป็นการนำศักยภาพและจุดแข็ง มาสร้างความแข็งแกร่งเพื่อต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา OR และ GC (บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้ลงนาม MOU ครอบคลุมความร่วมมือ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน ด้านการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน ด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่คุณค่า และด้านการพัฒนาธุรกิจ เพราะ OR เชื่อในโอกาส เพื่อทุกการเติบโต ร่วมกันอย่างยั่งยืน ดังนั้น การผนึกกำลังกับหน่วยงานภายนอก เป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตัวอย่างโครงการที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เกิดจากความร่วมมือกับ GC อาทิ ร่วมกันต่อยอดขยายผลการบริหารจัดการขยะรีไซเคิลแบบครบวงจร เช่น ขวดพลาสติก กระดาษ ขวดแก้ว กระป๋องอะลูมิเนียม เป็นต้น ด้วย “Youเทิร์น Platform” ของ GC และ โครงการ “แยก แลก ยิ้ม” โดย PTT Station ของ OR นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม “แยก แลก เทิร์น” ให้ลูกค้าสามารถนำพลาสติกที่ แยก’ รวบรวมไว้ มา ‘แลก’ เป็นของรางวัลได้ที่ PTT Station แล้วเราจะนำไป ‘เทิร์น’ ชีวิตให้ขวดพลาสติกอีกครั้ง ผ่านกระบวนการ Recycle & Upcycle อย่างถูกวิธี เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างประโยชน์ ช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


ธุรกิจหลักของ OR มีตัวอย่างการริเริ่มในการดำเนินการตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สำคัญผ่านธุรกิจร้าน Café Amazon แบรนด์กาแฟสัญชาติไทยที่อยู่เคียงข้างคนไทยมาเป็นระยะเวลา 20 ปี ปัจจุบันมีเติบโตมากกว่า 4,500 สาขาทั่วโลกและมากกว่า 4,100 สาขาที่เปิดให้บริการในประเทศไทย ซึ่งยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจที่มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจของสังคม ควบคู่กับการใส่ใจชุมชนและสิ่งแวดล้อม
OR ได้ดำเนินกิจกรรมลดการเกิดของเสียมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการลดปริมาณการใช้พลาสติกจากการขายสินค้า การนำวัสดุที่เหลือใช้จากการผลิตและการบริโภคมาจัดทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผ่านกระบวนการ Upcycling และขยายผลการใช้ประโยชน์จากวัสดุดังกล่าวไปยังลูกค้าประเภท B2C (Business to Customer) และลูกค้าแฟรนไชส์ B2B (Business to Business) เพื่อสร้างความตระหนักด้านความรับผิดชอบในกระบวนการผลิตและการบริโภคที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ของใช้ (Supplies Use) ภายในร้าน ให้เป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ เพื่อลดภาระและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของ OR
ผลการดำเนินงาน
การจัดการบรรจุภัณฑ์และพลาสติก (Packaging and Plastic Management)
ในธุรกิจของ OR มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้บรรจุภัณฑ์และพลาสติกที่หลากหลาย ซึ่งบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว หากมีการจัดการที่ไม่เหมาะสม จะก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมตามมา OR จึงได้ผลักดันให้มีโครงการต่าง ๆ เพื่อลดการใช้บรรจุภัณฑ์และพลาสติกจากการดำเนินธุรกิจและแสวงหาโอกาสในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- การออกแบบบรรจุภัณฑ์โดยใช้วัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ภายในร้าน Café Amazon ทุกสาขาให้เป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้โดยธรรมชาติ หรือสามารถนำมาใช้ใหม่และสร้างมูลค่าเพิ่ม ได้แก่ Amazon Bio Cup (แก้วกระดาษเคลือบพลาสติกชีวภาพชนิด PBS สำหรับเครื่องดื่มร้อน และแก้วพลาสติกชีวภาพชนิด PLA สำหรับเครื่องดื่มเย็น) และหลอดจากพลาสติกชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ย่อยสลายทางชีวภาพ 100% หนึ่งในนวัตกรรมรักษ์โลกจากกลุ่ม ปตท. โดย รวมถึงถุงกระดาษทดแทนถุงพลาสติกในร้านคาเฟ่อเมซอนทุกสาขา ซึ่งจะช่วยลดประมาณขยะได้ถึงประมาณ 1,900 ตัน/ปี

- โครงการ “รับเอง งดแยก ไม่แจกถุง” เป็นโครงการระหว่าง Café Amazon และ Grab ที่ส่งเสริมให้ผู้ใช้บริการเดลิเวอรีได้มีส่วนร่วมในการลดขยะพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง โดยผู้ใช้บริการสามารถเลือกบริการ “รับเองที่ร้าน (Self Pick-Up) “ไม่แยกน้ำแข็ง” และ “ไม่รับถุงพลาสติก”

- โครงการ Café Amazon go green ยึดหลักดำเนินธุรกิจที่สนับสนุนให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับการรักษาสภาพสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจตามหลักการ BCG (Bio-Circular-Green Economy) โดยมีผลการดำเนินงาน ดังนี้

- เสื้อพนักงาน ผ้ากันเปื้อนพนักงานบาริสต้าในร้าน Café Amazon ทุกสาขาผลิตจากวัสดุ Upcycling โดยการนำแก้วและขวดพลาสติก PET บรรจุเครื่องดื่มที่ผ่านการใช้งานแล้วมาย่อยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผ่านกระบวนการให้ความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 180-220 องศาเซลเซียส เพื่อให้พลาสติกหลอมละลาย จากนั้นดึงออกมาเป็นเส้นใยรีไซเคิลโดยใช้เครื่องรีดพลาสติก ส่งให้โรงงานสิ่งทอออกแบบรูปแบบการทอ นำไปทอเป็นผืนผ้า และตัดเย็บออกมาเป็นผลิตภัณฑ์
- Café Amazon ทุกร้านใช้วัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามหลัก BCG (Bio Circular Green) เป็นองค์ประกอบ เพื่อบรรลุเป้าหมายการทำให้ทุกร้านเป็น Circular Economy
- Café Amazon Concept Store รูปแบบพิเศษ ซึ่งเป็นร้านต้นแบบในการนำแนวความคิดของ Circular Economy มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ผ่านการใช้วัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามหลัก BCG (Bio Circular Green) 100% เช่น ผนังตกแต่งภายในร้าน โต๊ะ เก้าอี้ เคาน์เตอร์ชงกาแฟ ชั้นวางของ โคมไฟ ต้นไม้เทียม
- มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Upcycling ที่ทำจากแก้วและขวดพลาสติก PET เพื่อจำหน่ายในร้าน Café Amazon


- การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคในการลดใช้ทรัพยากรและบรรจุภัณฑ์ เช่น ส่งเสริมการใช้ถุงผ้า และการมีส่วนลดให้กับลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาใช้ในร้าน Cafe Amazon เป็นต้น โดยปี 2566 สามารถลดการใช้แก้วพลาสติกได้ 460.79 ตัน

- โครงการ “คืนคัพ” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคนำบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มเย็น (PET) กลับมาคืนที่ร้าน Café Amazon เพื่อเข้าสู่กระบวนการ Recycle อย่างเหมาะสม หรือนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ Upcycling เพื่อนำทรัพยากรกลับมาใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด โดยมีใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการเก็บข้อมูล และสะสมแต้มให้กับผู้บริโภคที่นำแก้ว PET มาคืนที่ร้าน Café Amazon ทั้งนี้ โครงการที่เกิดขึ้นจะช่วยส่งเสริมให้ Café Amazon เป็น F&B แบรนด์ที่มีการจัดการ Post – Consumer Waste ในรูปแบบ Closed-Loop ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งแต่เริ่มต้นโครงการนำร่องที่ร้าน Café Amazon จำนวน 10 สาขา ในเดือนตุลาคมจนถึงปัจจุบัน สามารถเก็บแก้ว PET ได้แล้วกว่า 11,000 ใบ และมีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 700 คน ปัจจุบัน OR อยู่ระหว่างการพิจารณาการขยายผลโครงการต่อไป

- โครงการแยก แลก ยิ้ม เพื่อจุดประสงค์ในการรณรงค์ให้เกิดการคัดแยกขยะใน PTT Station อย่างถูกวิธี และสร้างประโยชน์คืนสู่สังคม โดยนำขยะรีไซเคิลไปเปลี่ยนเป็นทุนการศึกษา เครื่องมืออุปโภค และสาธารณูปโภคในชุมชนต่างๆ โดยมีการดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2566 ได้มีความร่วมมือกับ “GC YOUเทิร์น” ในการรับจัดเก็บขยะรีไซเคิลเข้าสู่โรงงานรีไซเคิลที่มีมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ PTT Station ได้ว่า ขยะรีไซเคิลที่คัดแยกผ่านถัง “แยก แลก ยิ้ม” จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างถูกต้องต่อไป โดยตั้งแต่เริ่มต้นโครงการเดือนพฤษภาคมถึงปัจจุบัน สามารถเก็บขยะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้จำนวน 9.4 ตัน คิดเป็นมูลค่า 19,000 บาท และนำไปจัดทำเป็นเสื้อกีฬา และหมวกกีฬา Upcycling แจกให้กับชุมชนสังคมต่อไป

- การนำกระป๋องน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วแบรนด์ PTT Lubricants จากการเปลี่ยนถ่ายที่ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ทุกสาขาทั่วประเทศ เข้าสู่กระบวนการ Upcycling และการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้เทียม (Wood Plastic Composite) จากพลาสติกรีไซเคิลร่วมกับวัสดุชีวภาพอื่น ๆ สำหรับใช้ตกแต่งภายในห้องรับรองลูกค้าของศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto โดยในปี 2566 สามารถจัดเก็บกระป๋องน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วจาก FIT Auto ทุกสาขาทั่วประเทศ เป็นจำนวน 56.57 ตัน และติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ดังกล่าวภายในห้องรับรองลูกค้าของศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto จำนวน 12 สาขา

- ธุรกิจหล่อลื่น ได้มีการกำหนดแนวทางการจัดซื้อบรรจุภัณฑ์ (Packaging) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการกำหนดโครงสร้างสัดส่วนการใช้พลาสติกในการผลิตบรรจุภัณฑ์หล่อลื่นขนาด 18 ลิตร ชั้นกลาง ให้มีปริมาณการใช้พลาสติกรีไซเคิลไม่น้อยกว่า 30% โดยไม่กระทบกับคุณภาพของบรรจุภัณฑ์
การสูญเสียอาหารและของเสียประเภทอาหาร (Food Loss and Food Waste)
การสูญเสียอาหารและของเสียประเภทอาหารเป็นปัญหาที่ท้าทายสำหรับธุรกิจค้าปลีก ดังนั้น OR จึงสนับสนุนให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า โดยได้แสดงเจตนารมณ์ (Commitment) ในการลดการสูญเสียอาหารและปริมาณของเสียที่เกิดขึ้น (Food Loss and Waste Measurement) ผ่านการทบทวนกระบวนการผลิต การจัดการของเสีย ลดปริมาณการสูญเสียอาหารในทุก ๆ ธุรกิจของ OR ที่เกี่ยวข้อง (Food Loss and Waste Reduction) พร้อมทั้งกำหนดกลยุทธ์ในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ผ่านกิจกรรมนำของเสียประเภทอาหารมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด (Alternative Uses) รวมไปถึงการสร้างความตระหนักให้แก่พนักงาน และผู้มีส่วนได้เสียตลอดห่วงโซ่คุณค่าของ OR (OR Value Chain) ทั้งนี้ OR ได้จัดเก็บข้อมูลปริมาณอาหารที่สูญเสีย (Food Loss) ที่เกิดขึ้นภายในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โรงคั่วกาแฟอเมซอน โรงงานเบเกอรี่ และโรงงานผสม Dry Mix เพื่อติดตามผลการดำเนินงานและกำหนดแผนงานในการลดปริมาณอาหารที่สูญเสียที่เหมาะสมในอนาคต
โครงการ
- Food Loss to Fertilizer รวบรวมของเสียอาหารจากกระบวนการผลิตของธุรกิจคาเฟ่อเมซอน เช่น เยื่อหุ้มเมล็ดกาแฟ (จากโรงคั่วกาแฟอเมซอน) โดยในปี 2566 มีของเหลือทิ้งจากการผลิต (Food Loss) เป็นเยื่อหุ้มเมล็ดกาแฟ จำนวน 77.18 ตัน ได้ถูกไปนำไปเป็นวัสดุปรับปรุงดิน
- โครงการรวบรวมน้ำมันทอดใช้แล้วจาก Texas Chicken (Used Cooking Oil to Biodiesel (B100)) ไปผ่านกระบวนการและผลิตเป็น B100 ขายกลับให้ OR โดยในปี 2566 ได้รวบรวมน้ำมันทอดใช้แล้วจำนวน 186,804 ลิตร ไปผ่านกระบวนการผลิตเป็นน้ำมัน B100 เพื่อการนำกลับมาใช้ประโยชน์ต่อไป
การจัดการของเสียจากผลิตภัณฑ์
การจัดการของเสียจากผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้ประโยชน์สูงสุด เป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของ OR ในการลดปริมาณของเสียที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจของ OR ซึ่งโครงการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โครงการ Used Lube to Alternative Fuel Oil เป็นการจัดเก็บน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วจากศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ทุกสาขาทั่วประเทศ ไปผ่านกระบวนการ เพื่อนำกลับมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงทางเลือกอีกครั้ง สำหรับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมต่อไป โดยในปี 2566 ได้มีการจัดเก็บน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว จำนวน 1.14 ล้านลิตร
สถานีบริการต้นแบบของการดำเนินงานด้าน Circular Economy
PTT Station สาขา แฟลกชิป วิภาวดี 62 เป็นสถานีบริการต้นแบบของการดำเนินงานด้าน Circular Economy ซึ่งมีการจัดการขยะ ณ แหล่งกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่งเสริมให้มีการคัดแยกประเภทขยะ การนำขยะที่สามารถ Recycle ได้เข้าสู่กระบวนการ Recycle ได้อย่างถูกต้อง ได้แก่
- การคัดแยกเศษอาหารจากร้านค้าต่างๆ มาแปรสภาพผ่านเครื่องย่อยเศษอาหารเป็นวัสดุปรับปรุงดิน เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ภายในพื้นที่สถานีบริการน้ำมัน PTT Station
- การคัดแยกขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ เช่น ขวดน้ำ กระป๋อง ขวดแก้ว ลังกระดาษ เป็นต้น ผ่านโครงการแยกแลกยิ้ม x GC YOUเทิร์น ส่งต่อขยะที่สามารถรีไซเคิลได้เข้าสู่โรงงานรีไซเคิลที่มีมาตรฐาน
- การดำเนินโครงการ UCO to B100 ในการจัดเก็บรวบรวมน้ำมันทอดใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการผลิต B100 โดยเริ่มต้นดำเนินการจัดเก็บที่ Texas Chicken
- การตกแต่งร้าน Cafe Amazon Concept Store ตามแนวความคิดของ Circular Economy เต็มรูปแบบ ผ่านการใช้วัสดุตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามหลัก BCG (Bio Circular Green) 100% และการเป็นจุด Drop Point ของโครงการคืนคัพ ในการเก็บรวบรวมแก้ว PET ใช้แล้ว เข้าสู่กระบวนการ Upcycling ต่อไป
การเก็บรวบรวมน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วจากการเปลี่ยนถ่ายที่ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งจัดเก็บกระป๋องน้ำมันหล่อลื่นใช้แล้วที่ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto เข้าสู่กระบวนการ Upcycling และการนำพลาสติกรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพอื่นๆ มาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้เทียม ตกแต่งภายในห้องรับรองลูกค้าของศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto



