การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม

ความสำคัญ

          สิ่งแวดล้อมที่ดี คุณภาพอากาศที่สะอาด การจัดการของเสียที่มีประสิทธิภาพ ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานฐานของการดำรงชีวิต ในอดีตจนถึงปัจจุบันมนุษย์ล้วนพึ่งพาอาศัยสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดำเนินธุรกิจบนเส้นทางสู่ความยั่งยืน 

          OR ตระหนักดีว่าการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีเป็นหัวใจหลักสำคัญในการพัฒนาอย่างยั่งยืน จุดยืนที่ชัดเจนในการดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน คงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นในองค์กรและความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจของ OR จึงเกิดเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจ ผ่านแนวคิด OR SDG (Small, Diversified, Green) หรือการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในแบบฉบับของ OR เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย OR 2030 Goals ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้างโอกาสเพื่อสังคมสะอาด ส่งเสริมธุรกิจสีเขียว เพื่ออนาคตสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน (Green)  ที่พร้อมจะดำเนินธุรกิจ ร่วมกับการใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม

เป้าหมาย

แนวทางการบริหารจัดการ

          OR มีการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมตามนโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (QSHE) โดยมุ่งบรรเทาและป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดผลประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน- เศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy) และมุ่งเน้นการปฏิบัติตามข้อกำหนดในเรื่องการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษ ที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้ระบบการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม (ISO14001) เป็นแนวปฏิบัติสำหรับคลังปิโตรเลียม คลังก๊าซ และคลังน้ำมัน สถานีเติมน้ำมันอากาศยาน กลุ่มโรงงานศูนย์ธุรกิจไลฟ์สไตล์ (OASYS) ศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นบางปะกง และกลุ่มอาคารสำนักงานพระโขนง ส่งผลให้ในปี 2566 ไม่พบประเด็นการละเมิดข้อกำหนดและกฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม

          OR กำหนดเป้าหมายการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมประจำปี ที่สอดคล้องกับกลยุทธ์และเป้าหมายปี 2573  (OR 2030 Goals) ด้าน Healthy Environment คือ เป้าหมายในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ โดยลดการใช้พลังงานแบบดั้งเดิม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดปริมาณของเสียที่เกิดจากการดำเนินธุรกิจ ให้ได้มากกว่า 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับปี 2565 รวมถึงการใช้ระบบคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม (Quality, Safety, Health and Environment Management System) ซึ่งมี SSHE Performance Database เป็นระบบเก็บข้อมูลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Performance Indicator : EPI) ของทุกสถานประกอบการที่ดำเนินการโดย OR ทั้งธุรกิจน้ำมันและธุรกิจค้าปลีก โดยมีฝ่ายบริหารความยั่งยืน และคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (บยญ.) ติดตามการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม และนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์เพื่อปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป

 

           ดาวน์โหลดเอกสารนโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (QSHE) 

 

          นอกจากนี้ OR ได้ดำเนินการกำหนดและจัดทำมาตรฐานด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการของเสีย การจัดการน้ำทิ้ง สำหรับ PTT Station, FIT Auto และ ร้าน Café Amazon   โดยมีการสื่อความให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน ลูกค้าและผู้แทนจำหน่าย PTT Station  อีกทั้งยังมีการตรวจสอบและประเมินการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของ PTT Station, FIT Auto และ ร้าน Café Amazon ที่ดำเนินการโดย OR อย่างสม่ำเสมอ


การบริหารจัดการน้ำ

          OR มีการใช้น้ำในกระบวนการผลิต โดยแหล่งน้ำหลักที่นำมาใช้มาจากน้ำประปาและน้ำใต้ดิน ซึ่งมีการบันทึกข้อมูลรายงานการใช้น้ำของทุกสถานประกอบการทุกแห่งลงในระบบ Web-Application: PTT Group SHE Performance Database อย่างสม่ำเสมอ เพื่อจัดทำสรุปผล และเปรียบเทียบปริมาณการใช้น้ำกับเป้าหมายที่กำหนด

          OR อ้างอิงฐานข้อมูล (Database) การประเมินความเสี่ยงด้านน้ำต่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ซึ่งประกอบด้วยความเสี่ยงทางกายภาพทั้งปริมาณน้ำและคุณภาพน้ำ ซึ่งใช้เครื่องมือและมาตรฐานกระประเมินสากล ได้แก่ AQUEDUCT,  และ Water Risk Filter 


กิจกรรมเพื่อการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

          ในปี 2566 OR กำหนดเป้าหมายลดการใช้น้ำแบ่งแยกตามแต่ละสถานประกอบการ และได้บูรณาการและเชื่อมโยงแนวคิดการลดการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านโครงการ PI Idea หรือ Productivity Improvement โดยมีแนวคิดในการส่งเสริมผลักดันให้พนักงานและหน่วยงานมีแนวคิดในการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองเป้าหมายขององค์กรและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนคือจะต้องเป็นโครงการที่ให้ผลลัพธ์ตามการดำเนินธุรกิจแบบ Triple Bottom Line ที่ให้ความสำคัญด้าน 3P (Planet, People, Performance) โดยหัวข้อการพิจารณาในเรื่องของ Planet นั้นให้ความสำคัญไปที่ การลดการใช้น้ำ การลดใช้พลังงาน การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการปล่อยของเสีย 


การจัดการด้านน้ำเสีย

          OR มีการส่งเสริมแนวคิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งการใช้น้ำเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่สำคัญ ดังนั้น OR จึงให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำที่ใช้แล้วที่เกิดจากการดำเนินงานของสถานประกอบการใน OR เอง โดยมีการนำน้ำมาใช้ซ้ำ (Reuse Water) และ/หรือ นำน้ำมาผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle Water) ทั้งนี้ในปัจจุบันสถานประกอบการที่มีการบริหารจัดการน้ำที่ใช้แล้วตามที่กล่าวมาข้างต้น เช่น

  1. กลุ่มโรงงานศูนย์ธุรกิจไลฟ์สไตล์ (OASYS) 
  2. โรงงานซ่อมบำรุงถังก๊าซหุงต้มทุกพื้นที่
  3. กลุ่มอาคารสำนักงานพระโขนง 

          PTT Station สาขาเชียงคาน  สาขาวังจันทร์ สาขาวงแหวนตะวันตก (ขาเข้า) สาขาวิภาวดี 62 

          สำหรับสถานประกอบการอื่น ๆ อาทิ คลังปิโตรเลียม และ PTT Station สาขาอื่น ๆ  OR ได้กำหนดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อปรับคุณภาพน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมในทุกพื้นที่ปฏิบัติการของ OR โดยสำหรับ PTT Station ขนาดใหญ่ ได้มีการนำระบบบำบัดน้ำเสียแบบรวมศูนย์มาใช้ในการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นระบบเดียวกันกับระบบบำบัดน้ำเสียในโรงงานอุตสาหกรรมหรือห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีหลักการทำงานคือ การรวบรวมน้ำเสียจากทุกกิจกรรม เช่น น้ำเสียจากห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และน้ำเสียจากกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ PTT Station ทั้งหมด รวมเข้าสู่กระบวนการบำบัดน้ำเสียที่ “ระบบบำบัดน้ำเสียรวมศูนย์” เพียงจุดเดียว ซึ่งจะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการบำบัดน้ำเสียสูงสุด ทั้งนี้เพื่อให้ค่าน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดก่อนการระบายออกสู่ระบบระบายน้ำสาธารณะ 

          นอกจากนี้ เพื่อลดการใช้สารเคมีและสารตกค้างในน้ำทิ้งที่ปล่อยออกจากการดำเนินธุรกิจ OR จึงได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ENVICCO ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใน PTT Station และ ร้าน Café Amazon ที่ดำเนินการโดย OR ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถย่อยสลายตัวเองได้ตามธรรมชาติ ลดการใช้สารเคมี และสารตกค้างสู่สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการจัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้าเพื่อเป็นรณรงค์การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

          เพื่อให้มั่นใจว่าคุณภาพน้ำทิ้งจะเป็นไปตามมาตรฐานการระบายน้ำทิ้งในทุกพื้นที่ และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือชุมชนใกล้เคียง  OR ได้ยังกำหนดให้มีการตรวจติดตามคุณภาพน้ำทิ้งอย่างสม่ำเสมอ โดยจากการตรวจติดตามคุณภาพน้ำทิ้งโดย Mobile Lab ยังไม่พบประเด็นด้านคุณภาพน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดในปี 2566


การจัดการของเสีย

          ธุรกิจของ OR มีการใช้วัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิตได้แก่ น้ำมัน ก๊าซ Base Oil เมล็ดกาแฟ ผงผสม และ แป้งเบเกอรี่ โดยตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของธุรกิจ OR ก่อให้เกิดของเสียหลัก ได้แก่ กากตะกอนน้ำมัน วัสดุปนปื้อนน้ำมัน กากกาแฟ แก้วพลาสติก ผงผสมเสื่อมคุณภาพ เป็นต้น ซึ่งหากจัดการด้วยวิธีการไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยกิจกรรมของ OR และของเสียที่เกิดขึ้น พร้อมแนวทางการจัดการของเสียแต่ละประเภทแสดงดังตารางด้านล่าง

ประเภทสถานประกอบการ

ประเภทของเสียหลักที่เกิดขึ้น

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

แนวทางการกำจัด

คลังน้ำมัน

กากตะกอนน้ำมัน และวัสดุปนเปื้อนน้ำมัน

  • ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
  • ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ

ดำเนินการโดยผู้รับกำจัดที่มีใบอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด

ศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นบางปะกง

1) ฟิล์มแรป

  • ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

นำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ดำเนินการโดยผู้รับกำจัดที่มีใบอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด

ศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto

1) กระป๋องบรรจุภัณฑ์ปนเปื้อน

2) น้ำมันหล่อลื่นใช้แล้ว

3) แบตเตอรี่ใช้แล้ว

4) ยางรถยนต์ใช้แล้ว

  • ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

นำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล ดำเนินการโดยผู้รับกำจัดที่มีใบอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด

PTT Station / ร้านคาเฟ่ อเมซอน

1) ขยะทั่วไป

2) ขยะประเภทรีไซเคิลได้ เช่น พลาสติก ขวดแก้ว

  • เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลง และพาหะของโรค
  •  ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

นำเข้าสู่กระบวนการคัดแยกและรีไซเคิล ส่วนขวด PET นำไปผลิตเป็นเสื้อ Uniform ของบาริสต้าในร้าน Café Amazon

โรงคั่วกาแฟคาเฟ่อเมซอน

1) เยื่อหุ้มเมล็ดกาแฟ

2) ฟอยล์

3) ถุงฟอยล์บรรจุเมล็ดกาแฟ

4.) แก้วกาแฟพลาสติกโพลีโพรพิลีน

  • เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลง และพาหะของโรค
  • ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

นำไปเป็นวัตถุดิบในกระบวนการ Upcycling เพื่อไปทำเป็นสินค้าในร้านคาเฟ่อเมซอน เช่น ถุงฟอยล์นำไปทำ Eco Board เพื่อใช้เป็นป้ายเมนูเครื่องดื่ม ถุงฟอยล์บรรจุเมล็ดกาแฟนำไปทำเป็นคอลเลคชันผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ได้แก่ กระเป๋าหลากหลายชนิด เพื่อจำหน่าย นอกจากนี้ยังมีการนำแก้วกาแฟใช้แล้ว ไปทำเป็นผนังตกแต่งร้านรูปนกแก้วมาคอ (สาขาสามย่าน) อีกด้วย

โรงงานเบเกอรี่และโรงงานผงผสม

  • เศษขนมปัง นม
  • ผงเสื่อมสภาพ
  • เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลง และพาหะของโรค
  • ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

นำไปสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขยะอาหาร 100% โดยการนำมาทำปุ๋ย/วัสดุปรับปรุงดิน

          นอกจากนี้ OR ยังดำเนินโครงการ Zero Waste ใน PTT Station เพื่อบริหารจัดการขยะ ณ แหล่งกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีศูนย์ปฏิบัติการและเรียนรู้การจัดการขยะที่นำขยะที่เกิดขึ้นใน PTT Station มาใช้ประโยชน์ได้อย่างครบถ้วน เช่น โครงการผลิตปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร การทำน้ำหมักชีวภาพ ในปัจจุบันมีการดำเนินการโครงการดังกล่าวใน PTT Station ดังนี้

  1. สาขาสารภี
  2. สาขาแหลมฉบัง (ขาเข้า)
  3. สาขาแหลมฉบัง (ขาออก)
  4. สาขาวงแหวนตะวันตก
  5. สาขาสระบุรี
  6. สาขาพระราม 2 (ขาออก)
  7. สาขาบางนา (ขาออก)
  8. สาขาวิภาวดี 62
  9. สาขาวังจันทร์

          สำหรับของเสียที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้ OR มีมาตรการควบคุมและตรวจสอบว่าของเสียเหล่านั้นได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธีโดยผู้รับกำจัดที่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งของเสียไม่อันตรายและของเสียอันตราย ซึ่งในส่วนของของเสียอันตรายมีการจัดตั้งเป้าหมายในการลดปริมาณของเสียอันตรายที่ส่งไปกำจัดด้วยวิธีฝังกลบต้องเป็นศูนย์ ในปี 2566 OR สามารถบรรลุเป้าหมายนี้โดยไม่มีของเสียอันตรายที่ส่งไปกำจัดด้วยวิธีฝังกลบ


มลพิษทางอากาศ

          OR ให้ความสำคัญต่อการควบคุมมลพิษทางอากาศให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด  โดยมลพิษหลักที่เกิดจากกระบวนการดำเนินงานของ OR คือ สารอินทรีย์ระเหย (Volatile Organic Compound: VOC) ซึ่งเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การกักเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่ง และซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่ง OR ได้มีการจัดทำบัญชีการระบายสารอินทรีย์ระเหย (VOC Inventory) ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมของคลังปิโตรเลียม คลังน้ำมัน คลังก๊าซ PTT Station และโรงซ่อมสีถังก๊าซหุงต้ม โดยกำหนดให้มีการปรับปรุงข้อมูลเป็นประจำทุกปี เพื่อติดตามปริมาณการระเหยของ VOC ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งข้อมูลปริมาณการระบายสารอินทรีย์ระเหย ดังกล่าวจะนำมาวิเคราะห์และพัฒนาระบบและอุปกรณ์ที่ช่วยลดการระเหยของ VOC ออกสู่สิ่งแวดล้อม ตัวอย่างกิจกรรมที่ได้มีการดำเนินการ ได้แก่ การเปลี่ยนวิธีการถ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าออกจากแท็งก์บรรจุน้ำมันจากการถ่ายน้ำมันด้านบนแท็งก์ (Top Load) ให้เป็นการถ่ายน้ำมันด้านล่างของแท็งก์ (Bottom Load) ซึ่งเป็นระบบปิดเพื่อลดการระเหยของน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่างการขนส่งและระหว่างการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง การติดตั้งระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง (Vapor Recovery Unit – VRU) ระหว่างถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงและรถขนส่งน้ำมันขณะถ่ายเทน้ำมัน ที่คลังน้ำมันพระโขนง คลังน้ำมันลำลูกกา คลังน้ำมันสระบุรี คลังปิโตรเลียมสุราษฎร์ธานี และคลังปิโตรเลียมสงขลา และที่ PTT Station ทุกแห่ง และการติดตั้งระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง (Vapor Recovery Unit – VRU) ที่หัวจ่ายน้ำมันขณะทำการถ่ายเทน้ำมันเชื้อเพลิงลงสู่ถังน้ำมันของรถยนต์ลูกค้า PTT Station ซึ่งทำการติดตั้งใน PTT Station ตามที่กฎหมายกำหนดและเป็นบริเวณพื้นที่ชุมชนอ่อนไหว เช่น โรงเรียน เป็นต้น เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบต่อชุมชนสังคมที่อยู่บริเวณโดยรอบ PTT Station อีกทั้ง OR มีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนเป้าหมายปริมาณการระบายสารอินทรีย์ระเหย (Volatile Organic Compounds: VOCs) ไม่เกิน 33,600 ตัน ของกลุ่ม ปตท. โดยในปี 2566 มีปริมาณการระบายสารอินทรีย์ระเหย 8,877 ตัน


การรั่วไหลของน้ำมันและสารเคมี
           

          หนึ่งในธุรกิจของ OR เป็นธุรกิจน้ำมัน ดังนั้นอุบัติเหตุการรั่วไหลของน้ำมันและสารเคมีนั้นอาจเกิดขึ้นได้และส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้างและอาจส่งผลเสียต่อธุรกิจ OR จึงให้ความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมเพื่อตอบสนองและรับมือต่อเหตุการณ์รั่วไหลของน้ำมันและสารเคมี โดยติดตั้งอุปกรณ์ฉุกเฉินเพื่อตอบสนองกรณีเกิดการหกรั่วไหล รวมถึงการเช็คสภาพของอุปกรณ์ฉุกเฉินให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานอยู่เสมอในทุกพื้นที่ และมีการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเป็นประจำทุกปีสำหรับ คลังน้ำมัน คลังปิโตรเลียม และสถานีเติมน้ำมันอากาศยาน ทำให้ OR สามารถดำเนินการตอบสนองต่อเหตุการณ์รั่วไหลได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้น OR ยังร่วมกับสมาชิกสมาคมอนุรักษ์สภาพแวดล้อมของกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน (IESG: Oil Industry Environmental Safety Group Association) ในการระดมทุนจัดซื้ออุปกรณ์ที่สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์รั่วไหลที่มีความรุนแรงมากขึ้นได้อีกด้วย โดยงบประมาณที่ OR สนับสนุนค่าบำรุงสมาคม ประจำปี 2566 ซึ่งคำนวณจากปริมาณเป็นลิตรของน้ำมันที่นำมาจำหน่าย หรือผลิต ของบริษัทสมาชิกในปีที่ผ่านมา จำนวน 1,577,000 บาท อีกทั้งยังได้เข้าร่วมกองทุนระหว่างประเทศเพื่อชดใช้ความเสียหายอันเนื่องมาจากมลพิษน้ำมันอันเกิดจากเรือ (IOPC: International Oil Pollutions Compensation)  จ่ายเงินสมทบกองทุนจำนวน 4,111.49 ปอนด์สเตอร์ลิง หรือ 167,008.72 บาท เพื่อให้การช่วยเหลือและสนับสนุนอุปกรณ์ในการระงับเหตุและขจัดคราบน้ำมันกรณีรั่วไหล

          นอกจากนี้ OR ได้นำแนวทางการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมกรณีเกิดการรั่วไหลลงสู่สิ่งแวดล้อมของ กลุ่ม ปตท. มาใช้ในการดำเนินการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว โดยในปี 2566 สถานประกอบของ OR ไม่พบกรณีการรั่วไหลที่มีนัยสำคัญ


ความหลากหลายทางชีวภาพ

          OR มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ และป้องกันผลกระทบจากการดำเนินงานในพื้นที่โครงการซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง โดย OR ได้มีการแสดงเจตจำนงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ครอบคลุมผู้ค้า Tier-1 ผู้ค้า Non-tier 1 ทั้งนี้ OR ได้จัดทำแนวทางการจัดทำแผนดำเนินงาน ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและบริการของระบบนิเวศ (Biodiversity Action Plan Guideline : BAP) แนวทางการประเมินความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพและบริการของระบบนิเวศ (Biodiversity and Ecosystem Service No Net Loss Assessment Guideline) และแนวทางการประเมินความเสี่ยงความหลากหลายทางชีวภาพและบริการของระบบนิเวศ (Biodiversity and Ecosystem Service  Risk Assessment Guideline) ซึ่งเป็นเครื่องมือตามมาตรฐานที่กลุ่ม ปตท. กำหนด ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องและคงไว้ซึ่งความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศ

          ในปี 2566 OR ได้ดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพโดยใช้เครื่องมือ Integrated Biodiversity Assessment Tool (IBAT) แนวทางดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพข้างต้น และสิ่งมีชีวิตตามบัญชีแดงของ IUCN (IUCN Red List species) และรายงานสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการอนุรักษ์แห่งชาติ (National Conservation List)  ในขอบเขตของคลังปิโตรเลียม สถานีเติมน้ำมันอากาศยาน โรงคั่วกาแฟคาเฟ่อเมซอน และโรงซ่อมบำรุงถังก๊าซหุงต้ม พบว่ามีพื้นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงพื้นที่คุ้มครองทางทะเล (Protected Areas) คือ สถานีเติมน้ำมันอากาศยานภูเก็ต และสถานประกอบการ 10 พื้นที่อยู่ในพื้นที่ที่มีค่าความหลากหลายทางชีวภาพสูงซึ่งอยู่นอกพื้นที่คุ้มครอง (Areas of High Biodiversity Value) ได้แก่

  1. ศูนย์ธุรกิจไลฟ์สไตล์  (OASYS)
  2. คลังน้ำมันบางปะอิน
  3. คลังปิโตรเลียมบางจาก
  4. คลังน้ำมันลำลูกกา
  5. คลังน้ำมันพิษณุโลก
  6. คลังน้ำมันพระโขนง
  7. คลังน้ำมันสมุทรสาคร
  8. คลังปิโตรเลียมสุราษฎร์ธานี
  9. สถานีเติมน้ำมันอากาศยานภูเก็ต
  10. โรงงานซ่อมบำรุงถังก๊าซหุงต้มภาคกลาง จ. พระนครศรีอยุธยา

          ทั้งนี้ในปี 2565 พบว่า การดำเนินงานของสถานประกอบการของ OR ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ


การไม่ทำลายทรัพยากรป่าไม้
           

          OR มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจในทุก ๆ ธุรกิจ โดยหลีกเลี่ยงการทำลายทรัพยากรป่าไม้ (No Deforestation) ในทุกพื้นที่ที่ OR ดำเนินการ


ผลการดำเนินงาน

ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม

          OR มีความมุ่งมั่นในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต ไปจนถึงสนับสนุนให้ผู้บริโภคสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ OR สนับสนุนโครงการริเริ่มของภาครัฐในการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuel (น้ำมันไบโอดีเซล บี100 และเอทานอล) ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ภายใต้แผนการดำเนินงานตามกลยุทธ์ Healthy Environment ของ OR ที่มุ่งเน้นไปที่การลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยสถานีบริการ PTT Station จัดจำหน่ายน้ำมันดีเซล และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ 95 แก๊สโซฮอล์ อี20 แก๊สโซฮอล์ อี85 พร้อมทั้งพัฒนาปรับปรุงคุณภาพน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภค เทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไป และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนในประเทศ

ตารางแสดงปริมาณการจัดหาน้ำมัน Biofuel

          นอกจากนี้ OR ยังได้สนับสนุนให้กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อาทิเช่น การเปลี่ยนจากเชื้อเพลิง LPG ไปเป็น LNG ซึ่งจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือ การติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ภายในสถานประกอบการจำนวน 165 แห่ง

          OR มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำ (Low Carbon Product) ที่หลากหลายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้รับตราสัญลักษณ์ PTT Green for Life ที่เป็นการรับรองผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของกลุ่ม ปตท. และสัญลักษณ์ตะกร้าเขียว (Green Cart) ออกโดยกรมควบคุมมลพิษให้แก่สินค้าหรือบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลิตภัณฑ์ของ OR ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าว มีดังนี้

          ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง PTT Green For Life ได้แก่ ENVIICO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดพื้นผิวต่าง ๆ เช่น กระจกรถยนต์ ตู้จ่ายน้ำมัน และใช้ในร้าน Café Amazon ในการทำความสะอาดห้องน้ำ และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองตระกร้าเขียว ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กลุ่มน้ำมันหล่อลื่น


น้ำมันหล่อลื่น:

  1. PERFORMA SUPER SYNTHETIC 0W-30
  2. PERFORMA SYNTHETIC ECOCAR 0W-20
  3. PERFORMA SUPER SYNTHETIC 0W-20
  4. DYNAMIC SUPER COMMONRAIL 5W-30
  5. DYNAMIC ULTRA PLUS 15W-40
  6. DYNAMIC COMMONRAIL 10W-30
  7. DYNAMIC SUPER COMMONRAIL 5W-40

          ผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นของ OR จำนวน 7 ชนิด ได้รับการรับรองฉลากตะกร้าเขียวของกรมควบคุมมลพิษ โดยพิจารณาจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อส่งเสริมการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม


โครงการ 
สะสาง เพื่อสร้างโอกาสใหม่” โดยการทิ้งขยะ Electronic อย่างถูกวิธี

          เพื่อกระตุ้นให้เกิดการทิ้งขยะ Electronic อย่างถูกวิธีใน OR จึงเกิดเป็นกิจกรรม “สะสาง เพื่อสร้างโอกาสใหม่” โดยเป็นการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ตามจุดทิ้งที่กำหนดและบันทึกข้อมูลผ่านทางแอปพลิเคชัน E-Waste+ โดยพนักงานสามารถจับภาพหน้าจอการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์เพื่อนำรูปภาพหลักฐานนำมาส่งผ่าน MS Form เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมลุ้นรับของรางวัล โดยปี 2566 ที่ผ่านมามีขยะอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Waste ที่ถูกรวบรวมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี 100% ทำให้ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้จำนวน 39 กิโลกรัม คิดเป็น Carbon Scores ได้ 26.32 kgCO2 เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 4 ต้น

รูปภาพกิจกรรมโครงการ “สะสาง เพื่อสร้างโอกาสใหม่”

          ในวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นวันขยะอิเล็กทรอนิกส์สากล หรือ International E-Waste Day โดย OR ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการประกาศเจตนารมณ์เพื่อสร้าง Green Ecosystem ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน กว่า 190 องค์กร เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเครือข่ายในการสร้างองค์ความรู้ เป็นจุดรับทิ้งและขนส่ง รวมถึงการนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธี เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน มุ่งสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการนำขยะ E-Waste เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างถูกวิธี เพื่อการเป็น Zero E-Waste to Landfill

รูปภาพกิจกรรม International E-Waste Day

รางวัลปฏิบัติตามมาตรฐาน EIA Monitoring Awards 2023

          สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้จัดงาน EIA Symposium and Monitoring Awards 2023 ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา เพื่อมอบรางวัลให้แก่สถานประกอบการที่มีการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่มีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและมีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตามตรวจสอบผลการดำเนินการอย่างเคร่งครัด จากการตรวจประเมินของคณะกรรมการติดตามตรวจสอบสถานประกอบการ OR ได้รับรางวัลจำนวน 5 รางวัล จากทุกสถานประกอบการที่มีการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ประเภทโครงการท่าเรือพาณิชย์ที่สามารถรับเรือขนาด 500 ตันกรอสขึ้นไป รางวัลที่ได้รับ ประกอบด้วยรางวัลระดับยอดเยี่ยม 3 โครงการ ได้แก่ โครงการท่าเทียบเรือขนถ่ายน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมเหลวจังหวัด  สุราษฎร์ธานี (คป.สร.) โครงการท่าเทียบเรือคลังปิโตรเลียมสงขลา (คป.สข.) และ โครงการท่าเทียบเรือคลังน้ำมันภูเก็ต (คน.ภก.) รางวัลระดับดีเด่น 2 โครงการ เนื่องจากเป็นการยื่นขอเข้าร่วมโครงการเป็นปีแรก ได้แก่ โครงการท่าเทียบเรือขนถ่ายน้ำมันและก๊าซปิโตรเลียมเหลวจังหวัดสุราษฎร์ธานี แห่งที่ 2 (คป.สร.) และโครงการท่าเทียบเรือคลังปิโตรเลียมบางจาก (คป.บจ.)

การอบรมบุคลากรด้านสิ่งแวดล้อม 

          OR มีนโยบายส่งเสริมการให้ความรู้ ฝึกอบรมพนักงานและสร้างความตระหนักในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินการตามนโยบายคุณภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (QSHE) โดยในปี 2566 OR ดำเนินการจัดทำหลักสูตรในการฝึกอบรมด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ดังนี้

  1. การจัดเก็บและรายงานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental Data Collection and Reporting) ในรูปแบบ Hybrid (Onsite และ Online) ตามแนวทางการรายงานข้อมูลตามข้อกำหนด GRI เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจเรื่องการรายงานข้อมูลตาม GRI Standards ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการเก็บข้อมูลที่ถูกต้องแก่พนักงานผู้ทำหน้าที่ปฏิบัติงาน
  2. การทวนสอบข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (Data Verification) ในรูปแบบ Hybrid (Onsite และ Online) ร่วมกับการทวนสอบจริง ณ สถานประกอบการ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาผู้ทวนสอบภายในองค์กร เพื่อให้สามารถทวนสอบข้อมูลและสร้างความมั่นใจว่าข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมมีความถูกต้อง แม่นยำและถูกนำเสนอผ่านช่องทางสาธารณะอย่างโปร่งใส
  3. การประเมินประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14001 สำหรับสถานีเติมน้ำมันอากาศยาน โรงซ่อมสีถังก๊าซหุงต้ม กลุ่มโรงงานศูนย์ธุรกิจไลฟ์สไตล์ (OASYS) ศูนย์กระจายสินค้าผลิตภัณฑ์หล่อลื่นบางปะกง เพื่อเตรียมความพร้อมในการขอรับการรับรอง ISO 14001

รูปภาพการอบรมการทวนสอบข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม (Data Verification)

เอกสารที่เกี่ยวข้อง