การพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างมีส่วนร่วม

ความสำคัญ

(GRI 3-3a, GRI 3-3b)

          ในภาวะที่องค์กรธุรกิจประสบปัญหาและความท้าทายหลายด้าน ทั้งความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจที่เพิ่มแนวโน้มสูงขึ้น  หรือสภาพสิ่งแวดล้อมที่ถูกทำลายจากมลพิษอุตสาหกรรมนั้น  ภาคธุรกิจมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างมีส่วนร่วมและยั่งยืน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบเชิงลบต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างการเติบโตทางธุรกิจไปพร้อมกัน

          ธุรกิจของ OR มีความใกล้ชิดกับชุมชนและสังคม เช่น ร้านคาเฟ่อเมซอน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีชุมชนอยู่อย่างหนาแน่น หรือการใช้ถนนสาธารณะเพื่อขนส่งน้ำมันไปยัง PTT Station ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวของ OR จึงอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อชุมชนและสังคม เช่น การปล่อยมลภาวะสู่สิ่งแวดล้อมหรือจราจรที่รบกวนคุณภาพชีวิตของชุมชนในพื้นที่ และสร้างผลกระทบทางบวก เช่น การจัดซื้อจัดจ้างกับชุมชนท้องถิ่นที่ช่วยให้ชุมชนมีรายได้ ตามกลยุทธ์ OR SDG ‘S – SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก’ OR จึงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อชุมชน และสังคม ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน

เป้าหมายปี 2566 สำหรับโครงการเพื่อสังคมรอบสถานประกอบการ

แนวทางการจัดการ

(GRI 3-3c., GRI 3-3d., GRI 3-3e., GRI 3-3f., GRI 413-1)

นโยบายการบริหารจัดการความยั่งยืน และการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม

          การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของ OR อยู่ภายใต้กรอบแนวปฏิบัติที่กำหนดไว้ในนโยบายการบริหารจัดการความยั่งยืนของบริษัทฯ (อ่านนโยบายเพิ่มเติมในเว็บไซต์: คลิก) โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างสอดรับกับนโยบายการบริหารชื่อเสียงและกิจการเพื่อสังคม 

          จากนโยบายดังกล่าวข้างต้น OR จึงได้พัฒนาคู่มือและกรอบการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Citizenship and Philanthropy Framework and Manual) ในปี 2565 เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินงานสำหรับโครงการและกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ผ่านกระบวนการวางแผน การปฏิบัติ และการติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน  โดยมีการประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงศึกษาและกำหนดให้การดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมของ OR สอดคล้องตามหลักเกณฑ์สากล Business for Societal Impact Framework (B4SI) ตลอดจนแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility: CSR) การสร้างคุณค่าร่วม (Creating Shared Value: CSV) ความรับผิดชอบต่อสังคมในกระบวนการดำเนินงานของธุรกิจ (CSR in process) ความรับผิดชอบต่อสังคมนอกเหนือกระบวนการดำเนินงานของธุรกิจ (CSR after process) และวิสาหกิจเพื่อสังคม (SE)  

          สำหรับแนวทางในการพัฒนาและดำเนินโครงการ OR ยึดหลักการร่วมมือกับสังคมและชุมชน (Collaboration) ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะแก้ไขปัญหาหรือสร้างสรรค์โครงการและกิจกรรมพัฒนาสังคม โดย OR จะใช้ศักยภาพและความเชี่ยวชาญขององค์กร เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนผ่านกิจกรรมทางสังคมของ OR ทำให้ได้รับความไว้วางใจตลอดจนคนในชุมชนมีทัศนคติที่ดีต่อบริษัทฯ ซึ่งส่งผลให้เกิดการยอมรับจากสังคมให้ดำเนินธุรกิจ (Social License to Operate) ในระยะยาว ทั้งนี้ OR กำหนดขอบเขตกลุ่มเป้าหมายเป็นสองส่วน ได้แก่

  1. ระดับพื้นที่ คือ ชุมชนที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรของพื้นที่ปฏิบัติการ
  2. ระดับประเทศ คือ การดำเนินการนอกรัศมีพื้นที่ปฏิบัติการ 5 กิโลเมตร ขึ้นไป 

กรอบการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Citizenship and Philanthropic Framework)

          การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมช่วยส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายที่ยั่งยืนของบริษัทฯ “OR 2030 Goals” ได้แก่ Living Community, Healthy Environment, และ Economic Prosperity และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) จำนวน 9 เป้าหมาย โดยเพิ่มเติมเป้าหมายที่ 4 Quality Education สำหรับการดำเนินงานภายใต้กรอบการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้ OR จัดกลุ่มการดำเนินโครงการและกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมตามวัตถุประสงค์และลักษณะการจัดการประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อมออกเป็น 3 ด้านหลัก รวมถึงกำหนดตัวชี้วัดเพื่อวัดผลการดำเนินงานต่าง ๆ รายละเอียดดังนี้

ด้านที่ 1: S – SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก การดำเนินธุรกิจควบคู่กับการสร้างประโยชน์ต่อชุมชน โดยรอบพื้นที่ธุรกิจและสถานประกอบการ 


ด้านที่ 2: D – DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ
 การสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมนอกพื้นที่ธุรกิจและสถานประกอบการของ OR โดยมุ่งเน้นกิจกรรมสำหรับสังคมทั่วไปในวงกว้าง รวมถึงเศรษฐกิจสังคมในระดับประเทศ 


ด้านที่ 3: G – GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด
 องค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ


ภายใต้ 3 ด้านหลักการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม OR กำหนดแผนงานสำหรับโครงการและกิจกรรมเพื่อสร้างคุณค่าร่วมกับกลุ่มสังคมและชุมชน ให้สอดคล้องกับลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยมีขอบเขตในการดำเนินงานที่สำคัญ ดังต่อไปนี้ 

  • Education: การดำเนินโครงการและกิจกรรมให้ความรู้ที่มาจากธุรกิจของ OR ที่สามารถนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพ และ/หรือความรู้ทั่วไปที่ช่วยแก้ไขประเด็นปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ ด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย และการจัดการขยะ สำหรับเด็ก เยาวชนและชุมชน เป็นต้น
  • Social Equality: การดำเนินโครงการและกิจกรรมสนับสนุนความเท่าเทียมทางสังคม และการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานของคนทุกกลุ่ม จากการพัฒนานวัตกรรม และ/หรือการประยุกต์ใช้จุดเด่นของธุรกิจ OR เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน และสร้างโอกาสให้แก่กลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส
  • Product/ Service: การพัฒนาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นน้ำของห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนปลายน้ำที่ส่งมอบสินค้าและบริการออกสู่สังคม อาทิ การจัดหาวัตถุดิบจากชุมชน การส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ Upcycling เป็นต้น

แนวทางการดำเนินงานความรับผิดชอบต่อสังคม

การมีส่วนร่วมกับกลุ่มสังคมและชุมชน การวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของชุมชน

          โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของ OR เป็นผลที่ได้จากการวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของกลุ่มสังคมและชุมชน ผ่านการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียได้มีส่วนร่วม (Stakeholder Engagement) แสดงความคิดเห็น รวมถึงร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำผลจากการรับฟังความคิดเห็นไปวางแผนโครงการและการดำเนินกิจกรรมที่จะเสริมสร้างการพัฒนาชุมชนร่วมกัน ทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนโดยรอบ (Community Relation) อีกทั้งมีการจัดการประเมินระหว่างและหลังการดำเนินงานโครงการ เพื่อทบทวนและพัฒนาการทำงานให้ตอบสนองกลุ่มผู้รับประโยชน์ของโครงการมากที่สุด พร้อมกันนี้ OR ได้พัฒนาเครื่องมือสำหรับจัดทำโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม สำหรับใช้ในการกำหนดแผนงานโครงการและรายงานผลการดำเนินงานร่วมกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ต่อผู้มีอำนาจอนุมัติที่ได้รับมอบหมาย 

          นอกจากนี้ การรับฟังกลุ่มสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่องยังช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดผลกระทบด้านลบต่อชุมชน ผ่านการแสวงหาแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมกระบวนการรับมือหากเกิดเหตุการณ์ ด้วยการรวบรวมข้อมูลจากชุมชน ตรวจสอบการทำงานของ OR และยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาชดเชยหรือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ตามลำดับขั้นตอน ทำให้สามารถลดผลกระทบและข้อกังวลจากการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเกิดการทบทวน ปรับปรุง และพัฒนากระบวนการทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกในอนาคต 


ผลการดำเนินงาน

โครงการ/กิจกรรมสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมและชุมชน (Initiatives/ Programs) 

          ในปี 2566 OR ได้ทำการสำรวจข้อมูล/ความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย โดยครอบคลุมทั้งในระดับพื้นที่ คือ ชุมชนที่อยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรของพื้นที่ปฏิบัติการ ทั้งหมด 19 พื้นที่ หรือร้อยละ 100  ของพื้นที่ดำเนินการ และ ระดับประเทศ คือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นนอกรัศมีพื้นที่ปฏิบัติการ 5 กิโลเมตร ขึ้นไป เช่น เกษตรกรและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จึงได้รับทราบและระบุประเด็นความกังวลและความสนใจของชุมชนและสังคม

          นอกจากนี้ OR ยังได้พัฒนาแผนงานและจัดทำโครงการพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างมีส่วนร่วม โดยมีตัวอย่างโครงการและกิจกรรมในปี 2566 จำแนกตามกรอบการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ปรากฏดังนี้:

Focus Area

โครงการ/กิจกรรม

รายละเอียดการดำเนินงานในปี 2566

Neighbors Together (Community) 

การอบรมด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยแก่ชุมชน

โครงการ LPG Safety ความรู้ดี ๆ มีรอบถัง (2566)

  • ชุมชนจำนวน 1,400 คนได้รับการอบรมเรื่องการใช้ก๊าซหุงต้มอย่างถูกวิธี และปลอดภัย ครอบคลุม 7 จังหวัด (นครสวรรค์ สระบุรี ลำปาง ชลบุรี สุราษฎร์ธานี อยุธยา และแพร่)

แบ่งปันความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยให้หน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา (2566)

  • จัดอบรมให้หน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษา ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดับเพลิง เช่น การระงับเหตุเบื้องต้นกรณีการรั่วไหลของน้ำมันและก๊าซ การระงับเหตุเพลิงไหม้เบื้องต้น และมาตรฐานการใช้โฟมดับเพลิง เป็นต้น

โครงการ OR รักษ์เรือ รักษ์น้ำ ณ ชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการคลังปิโตรเลียม จังหวัดสงขลา และจังหวัดสุราษฎร์ธานี

  • กิจกรรมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเรือหางยาว โดยร่วมมือกับคณาจารย์และนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคหรือสถาบันอาชีวศึกษาในพื้นที่ จำนวน 1 แห่ง และกิจกรรมบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ การใช้ก๊าซหุงต้มอย่างถูกวิธีและปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ทั้งสิ้น 1 ชุมชน (200 คน)

โครงการ ขับดี…มีสุข (2566)

  • จัดทำและเผยแพร่วีดีทัศน์ให้ความรู้เรื่องน้ำมันหล่อลื่น และความปลอดภัยบนท้องถนนเพื่อเผยแพร่ให้เยาวชน

การส่งเสริม/สนับสนุนการกีฬา

สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับงานที่เกี่ยวข้องกับกีฬา (2566)

  • สนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดงานแข่งขันต่าง ๆ เช่น การแข่งขัน Rotax Max Challenge Thailand 2023 การแข่งขัน ROK Cup Thailand และ กิจกรรมเดิน-วิ่ง การกุศล “บ้านพิงพัก ให้รักช่วยรัน”

การส่งเสริม/สนับสนุนความเท่าเทียมในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐาน เช่น สุขภาพ การศึกษา

บริจาคทุนสร้างอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีและย่านนวัตกรรม (2566)

  • สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษาผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก

การรักษาโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลันโดยหน่วยรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ (Mobile Stroke Unit) (2561-ปัจจุบัน)

  • สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดทำหน่วยรักษาโรคหลอดเลือดสมองเคลื่อนที่ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ การบริการแพทย์ทางไกล (telemedicine) และระบบสื่อสารที่ทันสมัย จำนวน 1 คัน มูลค่า 20,000,000 บาท และส่งมอบให้แก่สาธารณสุขระยอง
  • สนับสนุนพื้นที่ พีทีที สเตชั่น 11 สถานี ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นจุดจอดรถโมบายสโตรคยูนิต โดยสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองไปแล้ว 935 ราย

การให้ความรู้จากธุรกิจ แก่หน่วยงานภาคภาครัฐ สถาบันการศึกษา

เรื่อง ความปลอดภัยในชีวิตประจำวันและกิจกรรมการจากดำเนินธุรกิจ การเติมน้ำมันอากาศยาน รวมถึงการต้อนรับสถาบันการศึกษาและชุมชนได้ศึกษาดูงานในพื้นที่ปฏิบัติการของ OR

OR Academy x KKBS Sharing Session หัวข้อ Introduction to Aviation Fuel Supply Business (2566)

  • วิทยากร OR บรรยายหัวข้อความรู้ให้นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น

โครงการ OR อาสาสานสุข (2566)

  • แบ่งปันข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น PTT Lubricant ให้กับชุมชน โดยมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 5,000 คน โดยครอบคลุมพื้นที่ 16 จังหวัด ประกอบด้วยกรุงเทพฯ ปทุมธานี สมุทรสาคร อยุธยา  ชลบุรี ขอนแก่น อุบลราชธานี เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และสงขลา

โครงการ Seeding the Future

  • เป็นโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เพื่อส่งเสริมการสร้างเครือข่ายเยาวชน การสร้างคุณค่าในสังคม และเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ โดยในปีนี้เปิดโอกาสให้เยาวชนที่เป็นนิสิตนักศึกษาจากประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จำนวน 50 คน เข้าร่วมโครงการ  นำไปสู่การต่อเมล็ดพันธุ์แห่งความดี ที่จะเติบโตเป็นอนาคตที่สำคัญในการพัฒนาภูมิภาคอาเซียนต่อไป

Shared Value (Social)

การจัดหาวัตถุดิบจากชุมชน

โครงการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชน (Community Coffee Sourcing)

  • สนับสนุนให้เกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน พัฒนาความรู้และทักษะอาชีพให้ผลิตกาแฟที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน ภายใต้ระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมทั้ง เป็นช่องทางในการจำหน่ายเมล็ดกาแฟกะลา ทำให้เกษตรกรมีรายได้ และความเป็นอยู่ดีขึ้น จากการรับซื้อในราคาที่เป็นธรรม โดยในปี 2566  รับซื้อเมล็ดกาแฟจากชุมชนจำนวน 16 ชุมชน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรทั้งสิ้น 350 ชุมชน มูลค่าการรับซื้อกว่า 36.9 ล้านบาท

การให้ความรู้ด้านการเกษตรยั่งยืน

โครงการ OR Smart Farming & Marketing (2566)

  • อบรมเกษตรกร 50 คน  เกี่ยวกับหัวข้อการเพิ่มผลผลิต การเพิ่มรายได้ และการเกษตรนวัตกรรม

การส่งเสริมการสร้างอาชีพกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาส

Café Amazon for Chance (2561 – ปัจจุบัน)

  • จ้างและอบรมพนักงาน รวมเป็น 263 คนตั้งแต่เริ่มโครงการ ประกอบด้วย 1) กลุ่มผู้สูงอายุ 231 อัตรา 2) กลุ่มผู้พิการทางการได้ยิน 25 อัตรา 3) กลุ่มผู้พิการทางสติปัญญา 2 อัตรา 4) กลุ่มทหารพิการและครอบครัว 2 อัตรา และ 5) กลุ่มผู้ถูกกระทำ/ผู้พิการทางร่างกาย/เยาวชนผู้ขาดโอกาส 1 อัตรา
  • เพิ่มจำนวนสาขาร้าน Café Amazon for Chance ที่มีการจ้างงานด้อยโอกาส รวมเป็น 279 สาขาตั้งแต่เริ่มโครงการ

การสร้างช่องทางจำหน่ายสินค้าชุมชน

โครงการไทยเด็ด (2561 – ปัจจุบัน)

  • สินค้าไทยเด็ดจำนวน 781 รายการ ตั้งแต่เริ่มโครงการ
  • ชุมชนเข้าร่วมโครงการรวม 376 ชุมชน
  • ร้านค้าไทยเด็ดจำนวน 325 แห่ง
  • สร้างรายได้ให้กับชุมชน 102 ล้านบาท
  • ร่วมลงนามใน MOU กับกระทรวงมหาดไทยเพื่อที่จะสนับสนุนสินค้าชุมชนมาจำหน่ายในร้านไทยเด็ดภายใน PTT Station
  • จัดทำวีดีทัศน์ประชาสัมพันธ์เรื่องโครงการไทยเด็ด
  • ประสานงานและประชุมเพื่อสร้างเครือข่ายพันธมิตรของโครงการ

พื้นที่ปันสุข (2564 – ปัจจุบัน)

  • จำนวนสถานีบริการ PTT Station ที่เข้าร่วมเพิ่ม 339 สถานี รวมเป็นทั้งหมด 1,139 สถานีตั้งแต่เริ่มโครงการ
  • สร้างรายได้ 3.30 บาทในปีที่ผ่านมา รวมเป็น 75.19 บาทตั้งแต่เริ่มโครงการ

การพัฒนา/จำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการ ส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัย

เมนูผสมนมข้าวโอ๊ต ในร้าน Café Amazon

  • จำหน่ายเมนูผสมนมข้าวโอ๊ต ณ ร้าน Café Amazon สำหรับผู้บริโภคที่ต้องการดื่มนมเพื่อสุขภาพ และ Plant-based สำหรับผู้ที่แพ้นมวัว

การพัฒนาและสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน

โครงการนำร่องเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวชุมชนให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน (2565-2566)

  • ปรับปรุงเพิ่มเติมสิ่งอำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวและสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ของทั้ง 10 ชุมชนนำร่องทั่วประเทศ
  • สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวสำหรับ 10 ชุมชนนำร่องได้ 10 % รวมถึงเพิ่มรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นได้ 10 %  อีกทั้ง ได้รับความพึงพอใจจากนักท่องเที่ยวในภาพรวมเฉลี่ยทุกชุมชนเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการดำเนินโครงการ

การสนับสนุนการสร้างธุรกิจใหม่

โครงการ TOGETHER – หนองยาง Herbal (2566-ปัจจุบัน)

  • พัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน เกิดเป็น 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมส่งเสริมและผลักดันให้เป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดลำปาง สร้างรายได้ให้แก่ชุมชน 44,623 บาท (เพิ่มขึ้น 60% เมื่อเทียบกับรายได้ก่อนเข้าร่วมโครงการ)
  • จัดอบรมพัฒนาศักยภาพชุมชน ส่งเสริมทักษะด้านการจำหน่ายสินค้าและการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้แก่คณะทำงานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหนองยาง Herbal Hub จำนวน 16 คน

Restoring Nature (Environment)

การให้ความรู้และส่งเสริมการบริหารจัดการขยะ

โครงการ TOGETHER – Zero Waste เสาไห้ จ.สระบุรี (2566-ปัจจุบัน)

  • จัดการอบรมเกี่ยวกับการคัดแยกขยะในครัวเรือนและการแปรรูปขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีชุมชนเข้าร่วม 70 ครัวเรือน
  • จัดทำสมุดครัวเรือนให้แก่ 70 ครัวเรือน ส่งเสริมให้ชุมชนเก็บข้อมูลขยะครัวเรือน อาทิ ข้อมูลพื้นฐานปริมาณขยะ และรายรับจากการขายขยะ

โครงการ TOGETHER รักษ์ แอท หนองกุง จ.ขอนแก่น (2565 – ปัจจุบัน)

  • จัจัดการอบรมเกี่ยวกับการจัดแยกขยะในครัวเรือนและการแปรรูปขยะให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีชุมชนเข้าร่วมโครงการ 750 ครัวเรือน
  • จัดกิจกรรมตลาดนัดขยะภายในชุมชน
  • สร้างกลุ่มอาชีพ จากการนำวัสดุเหลือใช้ และขยะภายในชุมชนมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน

โครงการ แยก แลก ยิ้ม School Camp ( 2565 – ปัจจุบัน )

  • จัดกิจกรรมค่ายอบรมด้านการบริหารจัดการขยะภายในโรงเรียนให้กับตัวแทนครูจาก 45 โรงเรียน
  • นำ 33 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการในปี 2566 เข้ารับการประเมินโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (Low Emission Support Scheme: LESS)
  • SROI 1.78
  • หลีกเลี่ยงการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 61.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

โครงการแยก แลก ยิ้ม ของ PTT Station (2559 – ปัจจุบัน)

  • จำนวนสถานีบริการ PTT Station ที่เข้าร่วมเพิ่ม 90 สถานี รวมเป็นทั้งหมด 2,094 สถานีตั้งแต่เริ่มโครงการ
  • สร้างรายได้ 8 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา รวมเป็น 22.55 บาทตั้งแต่เริ่มโครงการ

โครงการ OR สานเส้นใย (พลาสติก) ห่มภัยหนาว (2566)

  • รับบริจาคขวดพลาสติกทั้งหมด 357,026 ขวดและนำไปแปลงเป็นใยทอผ้าห่ม
  • สร้างรายได้ให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ทอผ้าห่มจากใยพลาสติก  3,263,838 บาท
  • บริจาคผ้าห่ม 16,000 ผืนให้แก่ผู้ประสบภัยหนาว
  • หลีกเลี่ยงก๊าซเรือนกระจก 7.114 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
  • (อ่านเพิ่มเติมในบท Highlight: การพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างมีส่วนร่วม คลิก)

การเพิ่มพื้นที่สีเขียว

โครงการปลูกป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดเชียงราย และพะเยา ร่วมกับกรมป่า

  • ปลูกป่าจำนวน 1,900 ไร่ และดำเนินการตรวจรับแล้วเสร็จ

โครงการปลูกป่าร่วมกับกลุ่ม ปตท.

  • OR ลงนาม MOU โครงการปลูกป่า 2 ล้านไร่ ร่วมกับกลุ่ม ปตท. กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ และโครงการปลูกและบำรุงรักษาป่าชายเลน  โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ “ปรับ เปลี่ยน ปลูก” และการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งสู่ Net Zero ในปี 2573

การสนับสนุนโครงการและกิจกรรมการลงทุนเพื่อสังคมปี 2566

OR ได้แบ่งประเภทของกิจกรรมการลทุนเพื่อสังคม และมีการเก็บข้อมูลงบประมาณในการลงทุนในกิจกรรมแต่ละประเภท โดยสรุปได้ดังนี้

 โดยงบประมาณหรือมูลค่าการลงทุนเพื่อสังคมรอบสถานประกอบการที่ดำเนินการในปี 2566 รวมมูลค่า 32.37 ล้านบาท มีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

  • เงินสนับสนุน (Cash Contributions) 22.12 %, 7.158 ล้านบาท
  • เวลาของพนักงานอาสาสมัคร (Time contributions) 4,971 ชั่วโมง 
  • การบริจาคหรือการสนับสนุนในรูปแบบสินค้าหรือบริการ (In-kind Contributions) 77.88 %, 25.21 ล้านบาท
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ (Management Costs)
    • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (เบี้ยเลี้ยง, ที่พัก เป็นต้น) 1.37 ล้านบาท
    • ค่าจ้างพนักงาน สค.สสญ. (6 คน) 4.51 ล้านบาท


การวิเคราะห์ผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (Social Return on Investment: SROI)
 

          ในปี 2566 OR ได้ทำการประเมินผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (SROI) จากกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม โดยคัดเลือกโครงการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชน (Community Coffee Sourcing)  และโครงการ ไทยเด็ด ซึ่งมีการดำเนินงานโดย OR โดยทำการสัมภาษณ์ผู้มีส่วนได้เสียของโครงการ และนำมาวิเคราะห์ประเมินผลลัพธ์ทางสังคมและคำนวณค่า SROI ตามลำดับ

          จากการวิเคราะห์ SROI โครงการจัดหาเมล็ดกาแฟจากชุมชน โดยคำนวณผลจากการดำเนินการในระยะเวลา 6 ปี (2560 – 2566) ในพื้นที่เชียงราย จะก่อให้เกิดผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน 1.48 บาทต่อการลงทุนทุก 1 บาท โครงการ ไทยเด็ด คำนวณผลจากการดำเนินการในระยะเวลา 5 ปี (2561 – 2566)  พบว่า โครงการจะสามารถสร้างผลกระทบในอีก 3 ปีข้างหน้า หลังจากมีการใช้งบประชาสัมพันธ์ที่ค่อนข้างสูงในปี 2566 เพื่อสร้างความตระหนักให้แก่กลุ่มผู้บริโภค

          (อ่านเพิ่มเติมในบท Highlight: การพัฒนาชุมชนและสังคมอย่างมีส่วนร่วม, คลิก)